About me

รูปภาพของฉัน
การเป็นอาจารย์ ครู หรือติวเตอร์ อาจจะแตกต่างกันบ้างในรายละเอียด แต่วัตถุประสงค์หลักไม่ต่างกัน คือ เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ โดยการสอน เพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้แก่นักเรียนของตน ให้สามารถนำความรู้นั้นไปใช้ในการดำเนินชีวิตได้อย่างสมดุลย์ ดังนั้น be Able by ครูโป่ง จึงได้สร้าง blog นี้ขึ้นมา เพื่อถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ ให้แก่ผู้ที่สนใจในอีกช่องทางหนึ่ง โดยจะมีติวเตอร์ของเรานำประสบการณ์ที่ได้พบเจอมาถ่ายทอด เล่าสู่กันฟังค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2554

สมอง การหายใจ สมาธิ เพื่อประสิทธิภาพการเรียน

ติวเตอร์โป่งเคยได้ยินมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก
ครูมักจะบอกว่า

"ถ้าหนูอยากเรียนหนังสือเก่งๆ
หนูลองฝึกทำสมาธิ วันละ 10-30 นาที ในตอนเช้าก่อนมาโรงเรียนทุกวันนะ"

ในตอนนั้นติวเตอร์โป่งยังไม่เข้าใจว่า
การทำสมาธิ จะช่วยให้เราเรียนหนังสือเก่งได้อย่างไร
แต่ก็ลองทำตามที่ครูแนะนำ
(แต่ทำได้ไม่กี่วันก็เลิกซะแล้ว เพราะมัวแต่ห่วงเล่น - -")

จนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
ติวเตอร์โป่งได้อ่านบทความทางการแพทย์ฉบับหนึ่ง
ที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของสมอง การหายใจ และสมาธิ
ว่ามีความเกี่ยวเนื่องกันตามหลักวิทยาศาสตร์

ในแต่ละวัน เราต้องใช้ความคิด ในเรื่องราวที่เจอในแต่ละวัน
คนในวัยทำงานก็จะคิดเรื่องงาน เรื่องครอบครัว เรื่องอนาคต เป็นส่วนใหญ่
คนในวัยเรียน ก็จะคิดเรื่องเรียน เรื่องอนาคต เป็นส่วนใหญ่ 
บางครั้ง คิดมาก จนปวดศรีษะ
และบางครั้งก็คิดเยอะเกินความจำเป็น

ประเด็นที่ติวเตอร์โป่งสนใจมากๆและนำมาคิดเพื่อที่จะศึกษาต่อๆไป ก็คือ

"มีการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ พบว่า
วัฏจักรการหายใจกับจังหวะการทำงานของซีกสมองมีความสัมพันธ์กัน
วัฏจักรการหายใจสามารถช่วยให้คนเราหาวิธีในการเปลี่ยนการทำงานของซีกสมอง
โดยใช้สมาธิทำความเข้าใจในเรื่องราวต่างๆ แทนที่การต้องใช้ความคิดอย่างหนัก"

เมื่ออ่านบทความจบแล้ว ทำให้ติวเตอร์โป่งนึกถึง ไตรสิกขา ของศาสนาพุทธ
นั่นคือ

"ไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
เป็นกระบวนการปฏิบัติ หรือ กระบวนการพัฒนา ๓ ด้าน คือ
ศีล เป็นหลักการพัฒนาระดับความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมทางสังคม
สมาธิ เป็นหลักการพัฒนาจิตใจให้มีสมรรถภาพและประสิทธิภาพ
ในการคิดพิจารณาตัดสินใจกระทำหรือไม่กระทำการใด ๆ
ปัญญา เป็นหลักการพัฒนาความรู้ความเข้าใจ รู้จักสิ่งทั้งหลายตามที่มันเป็น
และสามารถแยกแยะวิเคราะห์สืบหาสาเหตุของสิ่งทั้งหลายได้ชัดแจ้ง
ไตรสิกขาจึงเป็นกระบวนการพัฒนาแบบบูรณาการ"
(ที่มา http://www.oknation.net/blog/preeeecha/2010/02/17/entry-12 )

หากเราสามารถ
"ใช้สมองให้เกิดสมาธิทำความเข้าใจเรื่องราว แทนที่การใช้ความคิด"

จะทำให้เราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของสมอง
และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการเรียนได้มากขึ้น



ติวเตอร์โป่ง

3 ความคิดเห็น:

  1. ติวเตอร์โป่งขอแบ่งปัน คลิ๊ปที่มีประโยชน์ เกี่ยวกับ ความหัศจรรย์แห่งสมอง จัดทำโดย สำนักคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ตาม link ดังนี้ค่ะ
    1. http://www.clipmass.com/movie/มหัศจรรย์แห่งสมอง-1-3---202465485771378

    ตอบลบ
  2. 2. http://www.clipmass.com/movie/มหัศจรรย์แห่งสมอง-2-3---182812173371382

    ตอบลบ
  3. 3. http://www.clipmass.com/movie/มหัศจรรย์แห่งสมอง-3-3---132165292371383

    ตอบลบ